การวางแผนทางภาษี สำหรับธุรกิจ SMEs (ฉบับ Do it yourself)
การวางแผนภาษีเงินได้นิติบุคคล
จากบทความการวางแผนทางภาษี สำหรับธุรกิจ SMEs (ฉบับ Do it yourself) ตอนที่ 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับภาษีธุรกิจ สรุปได้ว่า ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นภาษีทางตรง (Direct Tax) ที่ SMEs ต้องรับภาระมากที่สุด ดังนั้น ผู้ประกอบการ SMEs จึงควรมีการวางแผนภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ
ทั้งนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นภาษีที่กรมสรรพากรเป็นผู้จัดเก็บเพื่อนำส่งรายได้ให้แก่รัฐบาล โดยจัดเก็บอัตราสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิ ซึ่งประมวลรัษฎากรได้กำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับ SMEs ดังนี้
1. การลดอัตรา โดยลดอัตราภาษีนิติบุคคลสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ไม่เกิน 5 ล้านบาท ดังนี้
กำไรสุทธิ
|
อัตราภาษีร้อยละ
|
1-150,000 บาท
|
ได้รับการยกเว้น
|
150,001 – 1,000,000 บาท
|
15
|
1,000,001 -3,000,000 บาท
|
25
|
3,000,001 บาทขึ้นไป
|
30
|
2. การยกเว้นภาษี เช่น เงินปันผลหรือผลประโยชน์ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้รับจากการถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นนิติบุคคลร่วมลงทุน
3. การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมในอัตราเร่ง บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ที่ซื้อทรัพย์สินมาใช้งาน หากทรัพย์สินนั้นใช้งานเกิน 1 รอบระยะเวลาบัญชี สามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาในอัตราเร่งได้ เช่น
ที่ซื้อทรัพย์สินมาใช้งาน หากทรัพย์สินนั้นใช้งานเกิน 1 รอบระยะเวลาบัญชี สามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาในอัตราเร่งได้ เช่น
- โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หักได้ ร้อยละ 40 ในวันที่ได้มา
- เครื่องจักรที่ใช้สำหรับ R&D หักได้ ร้อยละ 40 ในวันที่ได้มา
- อาคารโรงงาน หักได้ ร้อยละ 25 ในวันที่ได้มา
4. การหักค่าใช้จ่ายแบบพิเศษ ปกติรายจ่ายเพื่อการดำเนินธุรกิจ สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้ 3 รูปแบบ คือ 1) หักรายรายจ่ายเท่าที่จ่ายไป 2) หักน้อยกว่าที่จ่ายไปหรือไม่ยอมให้หักรายจ่าย และ 3) หักรายจ่ายได้มากกว่าที่จ่ายจริง โดยการหักรายจ่ายได้มากกว่าที่จ่ายจริง เป็นเรื่องที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จึงกำหนดสิทธิประโยชน์ในการหักรายจ่ายที่หักได้มากกว่า 1 เท่า เช่น
- รายจ่ายที่หักได้ 1.25 เท่า เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือวัสดุประหยัดพลังงาน
- รายจ่ายที่หักได้ 1.50เท่าเช่น สนับสนุนกีฬาตามโครงการยุทธศาสตร์ 4ปี
สร้างกีฬาชาติ
สร้างกีฬาชาติ
- รายจ่ายที่หักได้ 2เท่า เช่น การวิจัยและพัฒนา การจ้างคนพิการ การฝึกอบรมลูกจ้างและฝึกเตรียมเข้าทำงานการสร้างและรักษาสนามเด็กเล่นสาธารณะ ค่าโรงแรม ห้องสัมมนาเพื่อจัดอบรมให้ลูกจ้าง รายจ่ายร่วมออกร้าน นิทรรศการ งานแสดงสินค้าในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจะกำหนดหลักเกณฑ์ธุรกิจ SMEsลักษณะใดลักษณะหนึ่งในการให้สิทธิประโยชน์ หากธุรกิจ SMEs สอดคล้องกับหลายลักษณะ ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น
ในส่วนของสิทธิประโยชน์ในข้อ 3 และ 4 เป็นเงื่อนไขนำไปใช้หักลดค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปใช้เป็นเกณฑ์การพิจารณากำไรสุทธิตามข้อ 1 ดังนั้น ผู้ประกอบการ SMEsควรวางแผนภาษีตามประเภทธุรกิจของตนเอง เช่น หากกิจการมีความจำเป็นต้องซื้อเครื่องจักร ควรซื้อเครื่องจักรที่ประหยัดพลังงาน เนื่องจากหักค่าใช้จ่ายได้ 1.25 เท่า หากเดินทางไปจัดงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ สามารถนำมาหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า การวิจัยและพัฒนา หักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า เป็นต้น
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้เห็นชอบมาตรการภาษี เพื่อการสนับสนุน ส่งเสริม หรือบรรเทาปัญหาต่าง ๆ เป็นระยะ ผู้ประกอบการควรติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง อาทิ
· การให้สิทธิประโยชน์ภาษีเงินได้บริษัทนิติบุคคลในตลาดหลักทรัพย์mai โดยลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 25 สำหรับกำไรสุทธิที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai สามารถยกระดับเป็นบริษัทรายใหญ่ และจูงใจให้ SMEs จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
· การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 15 สำหรับกำไรสุทธิให้แก่ศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ สำหรับรายได้จากการจัดซื้อและขายสินค้าให้แก่วิสาหกิจ
ในเครือที่ตั้งในต่างประเทศ โดยสินค้าดังกล่าวมิได้ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เป็นเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
ในเครือที่ตั้งในต่างประเทศ โดยสินค้าดังกล่าวมิได้ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เป็นเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน
· ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับกำไรสุทธิของโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละโครงการ เฉพาะที่คำนวณจากรายได้จากการจำหน่ายคาร์บอนเครดิตไม่ว่าจะกระทำในหรือนอกประเทศไทยเป็นเวลา 3 รอบระยะเวลาบัญชี
· มาตรการภาษีให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่าง ๆ เช่น อาทิ การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่เป็นค่าสินไหมทดแทน ที่ได้รับจากบริษัทประกอบกิจการประกันภัยเพื่อชดเชยความเสียหาย เฉพาะส่วนที่เกินมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่เหลือจากการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา
· มาตรการภาษีช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่ากับจำนวนเงินช่วยเหลือในส่วนของเงินเดือนประจำที่ได้จ่ายให้ลูกจ้างไปแล้วตามบัญชี โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
· มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการอ่าน เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่นิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สิน 2 เท่าของรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมการอ่าน
ทั้งนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้มีการปรับปรุงรายละเอียดการให้สิทธประโยชน์เป็นระยะ ดังนั้นผู้ประกอบการ SMEs สามารถติดตามข้อมูลได้จาก
http://www.rd.go.th/publish/33892.0.html หรือ
http://www.rd.go.th/publish/42798.0.html
เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนทางภาษี สำหรับธุรกิจ SMEs ในส่วนของการวางแผนภาษีเงินได้นิติบุคคล ขอจบเพียงเท่านี้ สำหรับตอนต่อไปจะได้กล่าวถึงการวางแผนภาษีโรงเรือนและที่ดินต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น